top of page

ฮอนด้าเผชิญปัญหาภาษีศุลกากรสหรัฐฯ จะย้ายสายการผลิต Civic ใหม่หรือไม่?

  • Manage
  • 8 มี.ค.
  • ยาว 1 นาที

รัฐบาลของทรัมป์หลังจากกลับมาดำรงตำแหน่งอีกครั้งได้ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่คุณค่าระดับนานาชาติอย่างมีนัยสำคัญ รัฐบาลทรัมป์พยายามสร้างโครงสร้างเศรษฐกิจที่เน้นสหรัฐฯ เป็นศูนย์กลาง โดยกดดันให้บริษัทต่างชาติเลือกที่จะดำเนินธุรกิจในสหรัฐฯ มากกว่าที่จะใช้ฐานการผลิตที่มีความเหมาะสมทางเศรษฐกิจมากกว่า นโยบายที่ชัดเจนที่สุดคือการกำหนดภาษีศุลกากรจำนวนมากสำหรับสินค้าที่ผลิตในต่างประเทศ นโยบายนี้ไม่เพียงส่งผลกระทบต่อจีนเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงยุโรป แคนาดา เม็กซิโก และประเทศอื่นๆ ทำให้เกิดความตึงเครียดในระบบการค้าระหว่างประเทศ


ในสถานการณ์เช่นนี้ แบรนด์รถยนต์ญี่ปุ่นอย่างฮอนด้า (Honda) ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน เดิมทีฮอนด้ามีแผนที่จะย้ายฐานการผลิตรถยนต์รุ่นซีวิค (Civic) รุ่นใหม่ โดยเฉพาะรุ่นไฮบริดไปยังเม็กซิโก อย่างไรก็ตาม ด้วยนโยบายภาษีศุลกากรที่เข้มงวดขึ้น ทำให้แผนดังกล่าวต้องถูกทบทวนใหม่ เมื่อเร็วๆ นี้ ฮอนด้าได้ตัดสินใจยกเลิกแผนการผลิตในเม็กซิโกและกำลังพิจารณาการผลิตในสหรัฐฯ แทน ซึ่งคาดว่าโรงงานในรัฐอินเดียนาจะเริ่มผลิตซีวิคไฮบริดในเดือนพฤษภาคม ปี 2028


อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงฐานการผลิตไปยังสหรัฐฯ ไม่ได้หมายความว่าจะมีแต่ข้อดีเท่านั้น เนื่องจากต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นเป็นปัจจัยที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ค่าแรงที่สูงขึ้น ค่าดำเนินการที่เพิ่มขึ้น และปัญหาการจัดหาวัตถุดิบ อาจส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่การปรับขึ้นราคาขายของรถยนต์ ผู้บริโภคจะต้องแบกรับภาระด้านราคา และไม่ใช่เพียงแค่ฮอนด้าเท่านั้น แต่บริษัทรถยนต์อื่นๆ ก็อาจเผชิญปัญหาเดียวกัน


นโยบายภาษีศุลกากรของทรัมป์ก่อให้เกิดข้อถกเถียงภายในสหรัฐฯ ด้วยเช่นกัน บริษัทรถยนต์อย่างฟอร์ด (Ford) ได้แสดงความกังวลว่านโยบายนี้อาจส่งผลเสียต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ของสหรัฐฯ ในระยะยาว การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกอาจทำให้เกิดปัญหาในการจัดหาชิ้นส่วนรถยนต์ และอาจลดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมรถยนต์สหรัฐฯ นอกจากนี้ การเพิ่มต้นทุนของรถยนต์อาจส่งผลให้ตลาดรถยนต์ภายในประเทศหดตัว ซึ่งเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สร้างความกังวล


มีการคาดการณ์ว่าราคารถยนต์อาจเพิ่มขึ้นมากกว่า 20,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากภาษีศุลกากร นโยบายดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบเพียงแค่อุตสาหกรรมยานยนต์เท่านั้น แต่ยังครอบคลุมไปถึงภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ อีกด้วย อาจเป็นภาระต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยรวม แม้ว่านโยบายปกป้องอุตสาหกรรมภายในประเทศของทรัมป์อาจช่วยกระตุ้นการผลิตภายในประเทศในระยะสั้น แต่ในระยะยาวอาจลดความสามารถในการแข่งขันระดับโลกและส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งทำให้มีเสียงเรียกร้องให้มีการพิจารณานโยบายนี้อย่างรอบคอบมากขึ้น

LOGO NEW copy.png
카드 logo copy.png
Menu
Home
k.brand 
Startup & SMEs
k.booth
Fast shipping
k.blog
ประกาศ 
​join us
Apply
ขายส่ง
ตัวแทนจัดซื้อ
การส่งข้อความค้นหาผู้ผลิต
สมัครเป็นผู้ขาย
สอบถามสินค้า
SNS
Facebook
Instagram
LinkedIn
​Youtube
ssl.jpg

© by kaisongkor CREATED 

Kaisongเกาหลี เป็นผู้ให้บริการและตัวแทนจัดซื้อที่อนุญาตให้ทำธุรกรรมโดยตรงระหว่างผู้ผลิตในเกาหลีและผู้ซื้อชาวไทย เราไม่จัดการกับสินค้าผิดกฎหมายและไม่ร่วมมือกับคำขอที่ผิดกฎหมายจากลูกค้า

bottom of page