top of page

ยักกวาyakgwa 약과"

  • Manage
  • 19 พ.ค.
  • ยาว 1 นาที

อัปเดตเมื่อ 6 มิ.ย.

ยักกวาyakgwa

1. ที่มาและประวัติ

ยักกวา (약과) เป็นขนมโบราณของเกาหลีที่มีมาตั้งแต่สมัยโครยอ เดิมทีใช้ในพิธีสำคัญหรือไหว้บรรพบุรุษ และมีชื่อว่า "ยักกวา" ซึ่งแปลว่า “ขนมเหมือนยา” เพราะใช้วัตถุดิบที่มีประโยชน์ มีความเชื่อว่าถูกสร้างขึ้นในวัดพุทธและพัฒนาเป็นขนมชั้นสูงตลอดเวลา ในสมัยโชซอน ยักกวาเป็นส่วนหนึ่งของอาหารในวัง และนิยมใช้ในงานแต่งงานและพิธีกรรมต่างๆ วัตถุดิบอย่างน้ำผึ้ง น้ำมันงา และแป้งสาลีเป็นของหายาก จึงจำกัดเฉพาะชนชั้นสูง ยักกวามีสูตรและรูปร่างที่แตกต่างกันไปตามแต่ละภูมิภาค แม้จะเปลี่ยนไปตามกาลเวลา แต่ยังคงความเป็นขนมประจำชาติเกาหลีไว้ได้เป็นอย่างดี


2. รสชาติและเนื้อสัมผัส

ยักกวามีรสหวานหอม มีกลิ่นหอมจากน้ำผึ้งและน้ำมันงา รวมถึงรสเผ็ดอ่อนๆ จากขิง เมื่อกัดเข้าไปจะสัมผัสได้ถึงความนุ่ม ชุ่ม และบางครั้งมีความกรอบนอกเล็กน้อย รสชาติหวานและหอมมันเหมาะอย่างยิ่งสำหรับทานคู่กับน้ำชาแบบเกาหลี ขิงให้กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่ช่วยกระตุ้นความอยากอาหาร แม้จะทอดในน้ำมันแต่ก็ไม่มีความเลี่ยน รสชาติอาจแตกต่างกันตามสูตรแต่ละท้องถิ่น แต่จุดเด่นคือความกลมกล่อมของหวานและมัน ปัจจุบันยังมีรสชาติใหม่ๆ เช่น ยูซุ ชาเขียว หรือเมล็ดงาดำ เพิ่มขึ้นเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภครุ่นใหม่


3. ส่วนผสมและความลงตัว

ยักกวาประกอบด้วยส่วนผสมหลักคือ แป้งสาลี น้ำผึ้ง (หรือน้ำเชื่อมข้าว) น้ำมันงา สุราเกาหลี และน้ำขิง ส่วนผสมเหล่านี้แม้เรียบง่าย แต่เมื่อนำมารวมกันกลับให้รสชาติที่ลุ่มลึกและกลมกล่อม แป้งผสมกับน้ำมันงา สุรา และน้ำขิง จากนั้นนวดและพักแป้งจนได้ที่ แล้วนำไปกดลายและทอดจนสุก น้ำเชื่อมจะถูกเคลือบหลังทอดเพื่อเพิ่มความหวาน ขิงให้อารมณ์เผ็ดร้อน น้ำมันงาเพิ่มความหอม ส่วนสุราเสริมรสชาติและช่วยถนอมอาหาร วัตถุดิบแต่ละชนิดต้องเลือกอย่างพิถีพิถันโดยเฉพาะน้ำผึ้งและน้ำมันงา เพื่อรักษาคุณภาพของยักกวาไว้


ยักกวาyakgwa
ยักกวาyakgwa

4. ขั้นตอนการทำ

กระบวนการทำยักกวาต้องอาศัยเวลาและความประณีต แป้งสาลีจะถูกนวดกับน้ำมันงา สุรา และน้ำขิง จากนั้นพักไว้เพื่อให้เนื้อแป้งนุ่มขึ้น เมื่อนวดเสร็จจะนำไปรีดให้บางและใช้พิมพ์ลายนูนตกแต่ง จากนั้นนำไปทอดในน้ำมันจนผิวด้านนอกมีสีทอง แล้วนำลงจุ่มในน้ำเชื่อมหรือ น้ำผึ้งให้ซึมเข้าเนื้อขนม หลังจากนั้นนำขึ้นมาวางให้สะเด็ดน้ำเชื่อมและจัดแต่งให้สวยงาม ทุกขั้นตอนต้องคุมอุณหภูมิและเวลาอย่างแม่นยำ เพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสและรสชาติที่ลงตัว ถึงแม้ปัจจุบันจะมีเครื่องจักรช่วยผลิต แต่ยักกวาแบบดั้งเดิมที่ทำด้วยมือยังถือว่ามีคุณค่าอย่างยิ่ง


5. การเปลี่ยนแปลงในยุคปัจจุบัน

ยักกวาได้พัฒนาเป็นขนมร่วมสมัยมากขึ้น มีการเพิ่มรสชาติใหม่ๆ เช่น ยูซุ ชาเขียว งาดำ หรือสตรอว์เบอร์รี เพื่อดึงดูดคนรุ่นใหม่ มีเวอร์ชันขนาดเล็กแบบมินิ หรือแบบนุ่มที่คล้ายมัฟฟินที่นิยมในร้านกาแฟ ขนมยักกวายังถูกส่งออกไปต่างประเทศด้วยบรรจุภัณฑ์สวยงาม เหมาะเป็นของขวัญหรือของฝาก ท่ามกลางกระแสขนมเกาหลี (K-Dessert) ทำให้ยักกวาเริ่มได้รับความสนใจจากชาวต่างชาติ บนโซเชียลมีการแชร์สูตรสร้างสรรค์ เช่น ใช้เป็นท็อปปิ้งไอศกรีม หรือแต่งหน้าเค้ก การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ทำให้ยักกวายังคงคุณค่าทางวัฒนธรรมไว้ พร้อมตอบโจทย์ยุคสมัยใหม่


6. ความหมายและคุณค่าทางวัฒนธรรม

ยักกวาไม่ได้เป็นเพียงขนมธรรมดา แต่เป็นสัญลักษณ์ของความรัก ความเคารพ และวัฒนธรรมเกาหลีมาแต่โบราณ ขนมนี้มักใช้ในพิธีไหว้บรรพบุรุษ งานแต่ง หรือเทศกาลสำคัญ เพื่อแสดงความกตัญญูและความเคารพต่อบรรพบุรุษ ในอดีตเมื่อมีแขกมาเยือน ยักกวาก็ถูกนำมาเสิร์ฟคู่กับน้ำชาเพื่อแสดงถึงการต้อนรับอย่างมีมารยาท แม้ในปัจจุบัน การเสิร์ฟยักกวายังเป็นสัญลักษณ์ของการให้เกียรติและความจริงใจ ยักกวาจึงเป็นอาหารที่สะท้อนจิตวิญญาณเกาหลีและความผูกพันของคนในครอบครัว ด้วยคุณค่าทางวัฒนธรรมที่ลึกซึ้ง ขนมชนิดนี้ถูกกล่าวถึงในการผลักดันขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ไม่จับต้องได้ และจะยังคงสืบทอดต่อไปในอนาคต






ยักกวาyakgwa

 
 
LOGO NEW copy.png
카드 logo copy.png
Menu
Home
k.brand 
Startup & SMEs
k.booth
Fast shipping
k.blog
ประกาศ 
​join us
Apply
ขายส่ง
ตัวแทนจัดซื้อ
การส่งข้อความค้นหาผู้ผลิต
สมัครเป็นผู้ขาย
สอบถามสินค้า
SNS
Facebook
Instagram
LinkedIn
​Youtube
ssl.jpg

© by kaisongkor CREATED 

Kaisongเกาหลี เป็นผู้ให้บริการและตัวแทนจัดซื้อที่อนุญาตให้ทำธุรกรรมโดยตรงระหว่างผู้ผลิตในเกาหลีและผู้ซื้อชาวไทย เราไม่จัดการกับสินค้าผิดกฎหมายและไม่ร่วมมือกับคำขอที่ผิดกฎหมายจากลูกค้า

bottom of page