ถ่านหินก้อน (연탄/Yeon Tan)
- Manage
- 3 วันที่ผ่านมา
- ยาว 1 นาที
การใช้ถ่านหินก้อน (Yeontan) ในเกาหลีเริ่มขึ้นจริงจังตั้งแต่ช่วงปลายทศวรรษ 1950 หลังสงครามเกาหลี โครงสร้างที่อยู่อาศัยในเมืองเปลี่ยนแปลง ทำให้ต้องการเชื้อเพลิงที่มีประสิทธิภาพมากกว่าไม้หรือฟืน ถ่านหินก้อนที่ผลิตจากถ่านหินดิบมีราคาถูกและหาได้ง่ายจึงแพร่หลายอย่างรวดเร็ว เพราะสามารถใช้ได้ทั้งในการทำอาหารและให้ความร้อน ข้อดีเหล่านี้ทำให้ถ่านหินก้อนกลายเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตของชาวเมือง ในชนบทใช้ไม่มากนัก แต่ในเขตเมืองกลับแพร่หลายมาก ช่วงทศวรรษ 1960–70 จึงถือเป็นยุครุ่งเรืองของถ่านหินก้อน

โครงสร้างของถ่านหินก้อนมีลักษณะเป็นทรงกระบอกและมีรูตรงกลางเพื่อให้อากาศไหลผ่าน ปกติถ่านหนึ่งก้อนจะมีรู 20–30 รู ทำให้ไฟติดทนและให้ความร้อนสูง ในช่วงแรกมีการผลิตด้วยมือ แต่ไม่นานก็มีการพัฒนาเครื่องจักรในการผลิต ทำให้สามารถผลิตจำนวนมากและราคาถูกลง จึงแพร่หลายเร็วขึ้น นอกจากนี้ยังสะดวกต่อการขนส่งและเก็บรักษา จึงเข้ากับวิถีชีวิตในเมืองได้ดี ลักษณะเหล่านี้ทำให้ถ่านหินก้อนกลายเป็นแหล่งพลังงานหลักของเกาหลีในศตวรรษที่ 20
ราคาของถ่านหินก้อนเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย ในทศวรรษ 1960 ราคาก้อนหนึ่งเพียงไม่กี่สิบวอน ซึ่งถูกมาก ช่วงปลายทศวรรษ 1970 หลังวิกฤตน้ำมัน ราคาขึ้นไปถึงประมาณ 100 วอนต่อก้อน(2 บาท) พอเข้าสู่ทศวรรษ 1980 เศรษฐกิจเติบโตและค่าครองชีพสูงขึ้น ราคาก็เพิ่มเป็น 200–300 วอนต่อก้อน(4-7บาท) ในเวลานั้นครอบครัวชนชั้นกลางต้องใช้ถ่านหลายร้อยก้อนต่อเดือนในช่วงฤดูหนาว ราคาถ่านจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่กระทบต่อเศรษฐกิจครัวเรือนอย่างมาก
ตั้งแต่ทศวรรษ 1990 การใช้ถ่านหินก้อนลดลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากที่อยู่อาศัยในเมืองเปลี่ยนแปลง และมีการใช้หม้อต้มแบบใช้น้ำมันและแก๊สที่สะดวกกว่าและสะอาดกว่า เมื่อระบบทำความร้อนสมัยใหม่แพร่หลาย ถ่านหินก้อนจึงค่อย ๆ หายไป พร้อมกันนั้นความต้องการที่ลดลงทำให้ราคาถ่านสูงขึ้น ในช่วงต้นทศวรรษ 2000 ราคาก้อนหนึ่งทะลุ 500 วอน(12 บาท) ทำให้เป็นภาระสำหรับครอบครัวยากจน อย่างไรก็ตาม บางครัวเรือนรายได้น้อยยังคงพึ่งพาถ่านหินก้อน


ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ราคาถ่านหินก้อนกลับมาเป็นประเด็นทางสังคมอีกครั้ง ปัจจุบัน (ทศวรรษ 2020) ราคาก้อนหนึ่งอยู่ระหว่าง 800–1000 วอน (19-23 บาท) ปัจจัยสำคัญคือราคาพลังงานที่สูงขึ้นและต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น รัฐบาลและท้องถิ่นยังคงมีนโยบายสนับสนุนการแจกหรือขายในราคาถูกให้แก่ครัวเรือนที่ยังใช้ถ่านหินก้อน องค์กรอาสาสมัครก็จัดกิจกรรม “แบ่งปันถ่านหินก้อน” ทุกฤดูหนาวเพื่อช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส กิจกรรมเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยด้านพลังงาน แต่ยังแสดงถึงวัฒนธรรมการแบ่งปันที่อบอุ่นของสังคมเกาหลี
ทุกวันนี้ ถ่านหินก้อนถือเป็นสัญลักษณ์ทางประวัติศาสตร์ร่วมสมัยของเกาหลี อดีตเคยเป็นแหล่งพลังงานหลักที่ค้ำจุนชีวิตของชาวเมือง และปัจจุบันเป็นสื่อกลางแห่งการช่วยเหลือและความสามัคคีทางสังคม ถ่านหินก้อนยังทิ้งร่องรอยในวัฒนธรรมและความทรงจำ เช่น คำว่า “ขี้เถ้าถ่านหิน” ที่ชวนให้นึกถึงอดีต และยังคงอยู่ในความทรงจำของหลายคน นอกจากนี้ยังสะท้อนถึงการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานและยุคสมัย เรื่องราวของถ่านหินก้อนจึงเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์ชีวิตประจำวันของชาวเกาหลี
